วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปมาเลเซียหนนี้

เราวางแผนเที่ยวทั่วกรุงกัวลาลัมเปอร์โดยใช้ระบบขนส่งทางราง

อันแสนสะดวกและมีหลายระบบให้เลือกอย่างทั่วถึง ทั้งลอยฟ้า บนดิน ใต้ดิน

ก่อนเดินทางกลับด้วยเครื่องบินหางแดง ของสารการบินแอร์เอเชียในตอนค่ำ

โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสใช้อาคารผู้โดยสาร LCCT

................................................................

แผนการเดินทางของเราวันนี้

• เริ่มจากเดินทางไปขึ้นรถไฟฟ้าสาย Putra LRT ที่สถานีต้นทาง Kelena Jaya
• นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Pasar Seni เพื่อไปจับจ่ายของเล็กๆน้อยๆ ที่ถนนคนเดิน
• จากนั้นก็กลับมาขึ้นรถไฟสายเดิมเพื่อไปยังสถานี KLCC ไปเที่ยวตึกแฝด Petronus ถ่ายรูปเป็นหลักฐานเล็กน้อยเป็นเครื่องยืนยันการมาถึงกัวลาลัมเปอร์
• ถ่ายรูปเสร็จก็กลับมาขึ้นรถ LRT เพื่อไปลงที่สถานี Dang Wangi แล้วไปต่อรถ KL Monorail ที่สถานี Bukit Nanas
• นั่งรถ KL Monorail ไปลงที่สถานี Tiwangsa เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าสาย Star LRT
• นั่งรถไฟฟ้าสาย Star LRT ไปลงที่สถานี Bandaraya เพื่อหาที่ทานอาหารกลางวัน
• จากนั้นก็เดินตามเส้นทางเชื่อมไปขึ้นไฟฟ้า KTM Commutor ที่สถานี Bank Nakara
• นั่งรถไฟฟ้า KTM Commutor เพื่อไปลงที่สถานี Batu Tiga
• เจ้านายมารับที่สถานี Batu Tiga แล้วนำเราไปส่งที่สนามบิน KLIA LCCT ซึ่งเป็นอาคารผู้โดยสารสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ อยู่อีกด้านอาคารผู้โดยสารหลัดของสนามบิน KLIA

ขึ้นเครื่องบินหางแดง Air Asia กลับมายังสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ........

แผนผังระบบขนส่งทางรางของกรุงกัวลาลัมเปอร์

เริ่มจากสถานี Kelena Jaya อันเป็นต้นทางของสาย Putra LRT (สายสีเขียว)

ภาพด้านข้างของสถานี ข้างใต้สถานีเป็นที่จอดรถสำหรับผู้ใช้บริการระบบขนส่ง

ลักษณะโดยทั่วไปก็ไม่แตกต่างจากสถานี BRT เรามากนัก แต่สภาพเก่ากว่า

ชานชาลาเค้าจะอยู่ตรงกลางระหว่างราง ต่างจากบ้านเราที่ชานชาลาจะอยู่ด้านข้าง

รถไฟมาแล้วครับ

รถไฟ Putra LRT จะไม่มีพนักงานควบคุมอยู่บนรถ

เรานั่งหลังสุดจึงสามารถมองเห็นทางด้านหลังโดยไม่มีห้อง พขร. มาบดบัง

คนไม่เยอะครับ เสียได้ไม่ได้นั่งด้านหน้าสุด จะได้เห็นทางไปตลอด

เส้นทางช่วงนี้เป็นทางลอยฟ้าครับ เห็นตึกใน KL สวยๆหลายตึกเลย

ตึกที่เห็นชื่อตึก Telecom ก่อสร้างเป็นรูปทรงหน่อไม้ (Bamboo Shoot) เสริมฮวงจุ้ย

เรามาถึงสถานี Sentral Kuala Lumpur ซึ่งเมื่อสองวันที่แล้วเราลงรถด่วนลังกาวีที่นี่ครับ

ตึกสีขาวๆ มียอดโดมทรงคล้ายเจดีย์นี้ คือสถานีรถไฟ Kuala Lumpur

ซึ่งเป็นสถานียุคเดียวกับหัวลำโพงบ้านเรา สถาปัตยกรรมของเค้างดงามคลาสสิคมากครับ

เรามาลงรถไฟที่สถานี Pasar Seni เพื่อไปเดินเที่ยวในตลาด Sentral Market


ตึกสวยๆ นี้ชื่อ Dayabumi Complex ครับ

ย่าน Sentral Market นี้บรรยากาศประมาณเวิ้งนาครเขษม บ้านเราครับ

เป็นย่านร้านค้าเก่าแก่ มีสินค้าหลากหลายชนิดวางขาย ราคาต่อรองกันได้

(ตึกที่เห็นตรงกลางภาพเป็นตึกธนาคารกรุงเทพ ครับ)

ย่านนี้กลางคืนประดับไฟสวยงาม เป็นถนนคนเดินครับ

Shopping Arcade

อาคารเก่าแก่ ชั้นล่างเป็นร้านขายอาหาร ชั้นบนเป็นสำนักงานบริษัทค้ายางพารา

ไม่ทราบว่าปัจจุบันบริษัทค้ายางพาราดังกล่าวยังดำเนินกิจการที่ตึกนี้อยู่หรือเปล่า

ตึกทรงโบราณมีลายปูนปั้นคล้ายๆกับแบบชิโนโปรตุกีสที่ปีนัง

ด้านหน้า

ตึกสามชั้นก็มีครับ

..... หลังจากเดินชมบ้านเมืองแถวนั้นได้ซักพัก จากนั้นเราก็กลับมาขึ้นรถไฟ LRT ที่สถานีเดิม เพื่อไปยังสถานี KLCC โดยรถไฟลอยฟ้าที่วิ่งออกจากสถานีนี้ไปก็จะเริ่มมุดลงเป็นรถไฟใต้ดินแล้วครับ

สถานีรถไฟใต้ดิน KLCC

แล้วเราก็มาโผล่ตรงนี้ครับ ประจันหน้ากับตึกสูงเสียดฟ้า

มุมนี้เห็นสะพานเชื่อมตึกแฝด

..... ตึกแฝดปิโตรนัส มีความสูง 452 เมตร เป็นตึกสูง 88 ชั้น ขณะที่ตึกที่สูงที่สุดในบ้านเราคือตึกใบหยก 2 ซึ่งสูง 304 เมตร เป็นตึกสูง 85 ชั้น (ปี 2553 ตึกโอเชี่ยน 1 พัทยา จะเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยสูง 367 เมตร 91 ชั้น)

..... ตึกแฝดปิโตรนัส เคยเป็นตึกที่สุงที่สุดในโลกช่วงปี่ 2541 ถึงปี 2546 โดยตึกนี้ถูกทำลายสถิติโดยตึกไทเป 101 ซึ่งสูงที่สุดในโลกขณะนี ปัจจุบันตึกแฝดปิโตรนัสยังได้ชื่อว่าเป็น "ตึกแฝด ที่สูงที่สุดในโลก"

ด้านหน้าตึกเค้าจัดเป็นลานน้ำพุ ให้คนได้มานั่งเล่นพักผ่อน ถ่ายรูป

ตึกกับคนใครสูงกว่ากัน

..... หลังจากถ่ายรูปสวยๆ กับตึกปิโตรนัสเสร็จ เราก็ลงไปขึ้นรถไฟฟ้า Putra LRT สายเดิมเพื่อย้อนกลับไปที่สถานี Dang Wangi เพื่อไปต่อรถไฟ KL Monorail (สายสีแดง) ที่สถานี Bukit Nanas

ออกจากสถานี Dang Wangi ก็เห็นตึกแฝดครับ

ทางเดินเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้า Putra LRT ไปยังสถานี KL Monorail

สถานีรถไฟ KL Monorail ครับ

รถไฟมาแล้วถ่ายรูปตอนรถมาไม่ทัน ภาพนี้ถ่ายจากในรถครับ จะเห็นว่าในเมืองยังมีป่าร่มรื่นจริงๆ

ภายในรถครับ รถนี้จะมีพนักงานขับรถ อยู่ด้านหน้าครับ

ที่นั่งก็จะเป็นสองแถว วางตรงกลาง และวางด้านข้างสลับกัน

ผ่านหอคอย KL Tower ด้วยครับ

เบื้องหน้าเป็นสถานีปลายทาง Tiwangsa ครับ

รถจอดที่สถานีแล้วครับ สถานีนี้เป็นสถานีปลายทาง รถไฟมาถึงสถานีนี้แล้วจะวิ่งกลับ

พนักงานขับรถเดินออกจากรถเพื่อไปยังห้องขับอีกด้าน

รถไฟออกไปแล้วครับ

ตัวสลับราง (สีเข้ม) กำลังเคลื่อนจากรางเส้นซ้าย ไปเชื่อมกับรางเส้นขวาเพื่อรอรถขบวนใหม่ที่จะวิ่งมา

รถไฟอีกขบวนกำลังเข้าสถานี

...... จากสถานีปลายทางรถไฟฟ้า KL Monorail จะมีทางเดินเชื่อมไปยังสถานีระบบขนส่งอีกสายหนึ่ง คือรถไฟฟ้า สาย Star LRT

รถไฟฟ้าสายนี้เป็นขบวนที่ยาวที่สุดครับ ในระบบขนส่งทางรางของมาเลเซีย

รถไฟขบวนที่เราจะขึ้น เทียบชานชาลาแล้วครับ คนขับขบวนนี้เป็นผู้หญิงด้วย

ภายในรถไฟครับ

ภาพข้างทางครับ ในเมืองเค้ายังมีต้นไม้ร่มรื่นอยู่เลยครับ

เรามาลงรถไฟที่ย่าน Bandaraya ย่านนี้ขายพวกเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม บรรยากาศคล้ายพาหุรัตบ้านเรา

มีตึกเก่าแก่สมัยยังเป็นอาณานิคมของพวกตะวันตก

บ้านเมืองเค้าร่มรื่น มีต้นไม้ริมทางให้ร่มเงา

ร้านนี้ชื่อแคปิตอลคาแฟ่ครับ ดูจากป้ายชื่อร้านคงเป็นร้านเก่าแก่

ขายอาหารจีน-มาเลย์จำพวก ข้าวผัด ข้าวหน้าไก่ ผัดหมี่ เป็นต้น อยากลองทานเหมือนกัน แต่...

คนเยอะมากจนไม่มีที่นั่ง เห็นลูกค้าต้องยืนรอหน้าร้าน เราเลยตัดใจไปทานที่อื่น

หลังจากทานอาหารกลางวันแล้ว เราก็เดินจากย่าน Bandaraya ไปขึ้นรถ KTM Commutor

ที่สถานี Bank Nagara เป็นทางเดินเลียบคลองมีที่กันแดด กันฝนตลอด

ที่เห็นเป็นเป็นสะพานข้ามคลองนี้เป็นทางที่เราใช้เดินไปยังสถานีรถ KTM Commuter นะครับ

เค้าตั้งใจสร้างทางเดินได้สวยงามมาก ... สังเกตคลองครับ น้ำไหลตลอดถึงจะขุ่นแต่น้ำไม่เน่า

ตอนเดินข้าสะพาน พอดีกับรถ Star LRT ผ่านมาพอดี...

เค้าสร้างทางรถไฟเลียบฝั่งคลองครับ ไม่เกะกะ ไม่ต้องเวนคืนที่ดีไปอีกแบบ

ตอนนี้เรามาถึงที่สถานี KTM Commuter แล้วครับ

KTM Commuter เป็นรถไฟฟ้าที่ใช้รางร่วมกับการรถไฟมาเลเซียครับ

คล้ายๆกับรถชานเมืองบ้านเรา แต่วิ่งถี่กว่า รถจะวิ่งมาทุกๆ 10-20 นาที แล้วแต่ช่วงเวลา

รถออกแล้วครับ

ที่นั่งภายในรถครับ

และแล้วเราก็มาถึงสถานี บาตูทิก้า อันเป็นสถานที่นัดพบกับเจ้านาย

Bye-bye รถไฟมาเลย์

นั่งรอเจ้านายที่สถานี Batu Tiga สักพักฝนตกหนักเลย

..... เรานัดเจ้านายให้มารับเราที่นี่เพื่อนำเราเดินทางไปขึ้นเครื่องบินแอร์เอเชียที่สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ อันที่จริงเราสามารถเดินทางจากที่นี่โดยใช้บริการรถไฟฟ้า KLIA Express ซึ่งมีสถานีต้นทางอยู่ที่สนานี Sentral KLIA แต่เนื่องจากวันนี้เป็นการเดินทางหนแรกที่จะต้องใช้ อาคารผู้โดยสารสายการบินต้นทุนต่ำ LCCT (Low Cost Carrier Terminal) เพราะทุกครั้งที่เดินทางมาที่นี่มักจะใช้บริการของสายการบินไทย หรือมาเลเซียแอร์ไลน์ ซึ่งใช้อาคารผู้โดยสารหลัก ซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งครับ (ห่างออกไปจากที่นี่อีกประมาณ 10 กิโลเมตร.. อยู่คนละด้านของรันเวย์) .... KLIA Express จะไปสิ้นสุดที่อาคารผู้โดยสารหลัก และจะต้องต่อรถที่วิ่งภายในสนามบิน เพื่อไปยัง LCCT อีกครั้งหนึ่ง ....เจ้านายเกรงเราจะตกเครื่องบินเลยอาสานำเราไปส่ง ....

ถึงแล้วครับ KLIA LCCT มองข้างนอกเหมือนหมอชิตเลยครับ

ยืนยันเลยครับสภาพไม่ต่างจากหมอชิตตอนสร้างเสร็จใหม่ๆ

แต่เข้าไปข้างในทำให้นึกถึงบรรยากาศห้างแมคโครครับ

Gate รวมครับ เที่ยวบินไหนเรียกขึ้นเครื่อง ผู้โดยสารไปเข้าแถวให้ตรวจบัตรแล้วเดินออกไปขึ้นเครื่อง

...... อันที่จริงสนามบินนานาชาติ KLIA เป็นสนามบินที่หรูหรา สวยงามมาก ตอนเดินทางไปมาเลเซียครั้งแรกไปลงเครื่องที่อาคารทางเชื่อมเครื่องบินรูปกากบาทชื่อว่า Satelite Terminal จากนั้นก็มีรถไฟฟ้า เข้าไปยังอาคารผู้โดยสารหลัก ซึ่งมีความรู้สึกประทับใจมากกับการได้มาเยือนประเทศมาเลเซียครั้งแรก .... สนามบินแห่งนี้ยังได้รับการโหวตให้เป็นสนามบินนานาชาติ ขนาดกลางที่ดีที่สุดในโลกด้วยครับ

...... แต่เสียดายจังเลยที่เค้ามีนโยบายย้ายอาคารผู้โดยสารสายการบินต้นทุนต่ำมาที่ LCCT ทำให้คิดไปว่าความประทับใจแรกพบของนักท่องเที่ยวที่มาลงเครื่องที่นี่ คงจะจดจำภาพขนส่งหมอชิตบวกกับห้างแมคโครเป็นภาพแรกที่ได้มาสัมผัสมาเลเซีย..... 5555

โหวงเหวงแล้วครับ เที่ยวบินของเราเป็นเที่ยวสุดท้ายของคืนครับ มีผู้โดยสารไม่ถึง 50 คน

จาก Gate ต้องเดินไปขึ้นเครื่องเองครับ สงสัยเหมือนกันว่า ....

เคยมีคนขึ้นเครื่องบินผิดลำรึเปล่า เพราะเห็นทางเดินมันสับสนสิ้นดี

ขึ้นเครื่องแล้วครับ

ลาก่อนมาเลเซีย ... พบกันใหม่วันหน้า