วันนี้เจ้านายมารับเราแต่เช้า บอกว่าจะพาไปเที่ยวเก็นติ้งไฮแลนด์
ไปเที่ยวกันในมุมมองใหม่
วิวระหว่างทาง ภาพเมืองกลางหุบเขา
ผ่านถ้ำบาตู ศาสนสถานของชาวฮินดู

จะเห็นทางขึ้นไปยังถ้ำ อยู่ด้านหลังของรูปปั้นเทวรูป
... น่าเสียดายมากที่ทริปนี้เราไม่มีโอกาสแวะเข้าไปเที่ยวถ้ำบาตูแห่งนี้ เนื่องจากหากเราจะเข้าไปเที่ยวที่แห่งนี้อาจทำให้เสียเวลามากเนื่องจากช่วงเวลาที่เราไปนั้นเป็นช่วงปีใหม่ของชาวฮินดู จึงทำให้มีผู้คนมากมายเข้ามานมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาสนสถานแห่งนี้ หากเราแวะที่นี่อาจทำให้เราพลาดการท่องเที่ยวที่อื่นซึ่งได้วางแผนไว้แล้ว ดังนั้นจึงจำต้องตัดใจ ... จำเป็นต้องนั่งรถผ่านไปด้วยความเสียดาย เอาไว้โอกาสหน้านะ
... ถ้ำบาตู (Batu Cave) เป็นศาสนสถานของชาวฮินดู ตั้งอยู่ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ 13 กิโลเมตรไปทางทิศเหนือ ถ้ำแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้นับถือศาสนาฮินดู ในประเทศมาเลเซีย ถ้ำบาตูประกอบด้วยถ้ำหลักขนาดใหญ่ 3 ถ้ำ ตัวถ้ำเป็นภูเขาหินปูน ขนาดยาว 400 เมตรและสูง 100 เมตร โดยทางขึ้นสู่ถ้ำแห่งนี้เป็นบันไดขนาดใหญ่จำนวน 272 ขั้น ถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2435
ถนนสายนี้ผ่านหุบเขาต่างๆมากมาย เหมือนภาคเหนือของเรา
ป้ายทางเข้าเก็นติ้งไฮแลนด์
..... การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาเก็นติ้งไฮแลนด์มีอยู่ 3 วิธีครับ คือ
เดินทางโดยรถยนต์ หรือรถบัสขึ้นไปสู่ยอดเขาเลย วิธีการนี้สะดวก รวดเร็ว แต่ต้องอาศัยความชำนาญเส้นทางของผู้ขับขี่ด้วยครับ เพราะเส้นทางนี้ลาดชันและคดเคี้ยวมาก
จอดรถที่สถานีกระเช้าไฟฟ้า แล้วขึ้นกระเช้าลอยฟ้า Genting Skyway ซึ่งเป็นกระเช้าลอยฟ้าที่มีระยะทางยาวถึง 3.8 กิโลเมตร และเป็นกระเช้าลอยฟ้าที่แล่นเร็วที่สุดในโลก สำหรับค่าโดยสารกระเช้าคิดราคาคนละ 10 ริงกิต (ไป-กลับ) กระเช้าลอยฟ้านี้บรรทุกผู้โดยสารได้ไม่เกินเที่ยวละ 8 คน
ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า Awana Cablecar ซึ่งเป็นกระเช้าลอยฟ้ารุ่นเก่า มีสถานีอยู่อีกด้านหนึ่งห่างจากสถานี Genting Skyway พอสมควร เป็นกระเช้าลอยฟ้าขนาดใหญ่บรรจุคนได้มาก แต่แล่นช้ากว่า Genting Skyway.
..... วันนี้เราตั้งใจจะใช้บริการ Genting Skyway เพื่อเดินทางขึ้นสู่ยอดเขา และจะได้เก็บภาพสวยๆ จากการเดินทางบนกระเช้า ......แต่.... เป็นทีน่าเสียดายอย่างมากเมื่อเราไปถึงสถานีกระเช้าลอยฟ้า เค้าแจ้งว่าตลอดอาทิตย์นี้กระเช้าไฟฟ้าหยุดดำเนินการ เพื่อซ่อมบำรุง... เราจึงเปลี่ยนแผนโดยการจะไปใช้บริการ Awana Cablecar ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีกพอสมควร แต่พอไปถึงปรากฏว่าคิวยาวมาก และต้องรออีกประมาณ 1 ชั่วโมง ดังนั้นเราจึงตัดใจ ใช้วิธีการขับรถขึ้นสู่ยอดเขาเป็นทางเลือกสุดท้าย....
เสากระเช้าลอยฟ้า Genting Skyway วันนี้หยุดให้บริการครับ อยู่ระหว่างซ่อมบำรุง
รังนกนางแอ่น ที่อาคารจอดรถ SkywayCable Car
ทางขึ้นไปยังยอดเขา จะเห็นวัดจีนชินสวี (Chin Swee) อยู่ไกลๆ
ถึงยอดเขาแล้วครับ ตึกใหญ่สร้างบนยอดเขา อลังการจริงๆ
อากาศบนนี้หนาวเย็นตลอดปี วันที่เรามาหมอกลงจัด อุณหภูมิ 18 องศา
อาคารไสตล์ยุโรป
ประกาศขายทรัพย์สินที่หน้าลิฟท์ เป็นอุทาหรณ์สำหรับนักเล่น

อาคารโรงแรมสีสันงดงามเหนือยอดเขา
อาคารกาสิโนครับ ชั้นล่างเป็นกาสิโนสำหรับบุคคลทั่วไป
ส่วนที่ยอดโดมเป็นของนักเล่นระดับพลาตินัม บุคคลทั่วไปห้ามเข้า

ด้านหน้าอาคารกาสิโน มีธงชาติมาเลเซียและธงประจำรัฐและเขตปกครองต่างๆ ของมาเลเซีย

ตรงนี้เป็นโรงแรม แต่ในอดีตเป็นอาคารกาสิโน ก่อนย้ายไปอาคารใหม่
..... เราเดินเข้าไปในโซนกาสิโนได้พักนึ่ง รู้สึกไม่ไหวเพราะนักพนันเครียดกันเหลือเกินอัดบุหรี่กันแทบทุกคนเลย เห็นเค้าแลกชิปกันคราวละหลักหลายๆพัน หลักหมื่น ก็เลยรู้สึกว่าไม่เหมาะสำหรับนกกระจิบแบบเรา เลยออกมาเดินเล่นโซน shopping plaza แล้วหาอะไรทาน จะได้ออกไปตะลุยเที่ยวที่อื่นต่อไป
ด้านหลังเป็นสวนสนุก มีเครื่องเล่นต่างๆมากมาย

บรรยากาศสวนสนุกวันนี้เงียบเหงา ผิดกับในบ่อนกาสิโน

วันนี้เจ้านายอาสาเป็นคนพาเราเที่ยวครับ

เก็นติ้งแมน ในโซน plaza
วัดจีนชินสวี ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรื่อง Unseen ของเรา
ป้ายประตูวัด ถ่ายจากด้านในวัด
..... วัดจีนชินสวี (Chin Swee Temple) เป็นวัดจีนที่สร้างบนภูเขา ตรงทางลงเก็นติ้งไฮแลนด์ วัดนี้เริ่มก่อสร้างในปี 2518 ในช่วงที่เก็นติ้ง ยังเป็นโรงแรมและกาสิโน เล็กๆ .... โดยดำริของนายลิม โก๊ะห์ ตง เพื่ออุทิศแด่บรรพบุรุษสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ท่านสร้างกาสิโนบนภุเขาแห่งนี้ โดยการก่อสร้างวัดซึ่งตั้งอยู่บนภูเขา มีภูมิประเทศลาดชัน และอันตรายเป็นอย่างยิ่ง จึงไม่สามารถใช้เครื่องมือเครื่องจักรเป็นเครื่องทุ่นแรงได้ ต้องใช้แรงงานคนในการขุดฐานรากลึก 80 ถึง 100 ฟุต แต่ด้วยความมุ่งมั่นบากบั่นทำให้การก่อสร้างวัดนี้ได้สำเร็จลงได้ โดยใช้เวลาก่อสร้างถึง 18 ปี .... สิ่งที่น่าทึ่งที่สุด ถึงแม้การก่อสร้างวัดแห่งนี้จะเป็นไปด้วยอันตรายและยากลำบาก แต่ก็ไม่ปรากฏว่าว่ามีผู้ได้รับอันตราย บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตในระหว่างการก่อสร้างอย่างไร
..... ภายในวัดแห่งนี้ ประกอบด้วย เจดีย์แบบจีน พระพุทธรูปหินขนาดใหญ่ รูปแกะสลักเจ้าแม่กวนอิม หอชมวิว สถานปฏิบัติธรรม และร้านอาหารเจ นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นต่างๆแสดงเรื่องนรก สวรรค์ และรูปปั้นของเซียนและเทพยดาต่างๆ มากมาย เรียงรายตามทางเดินเลียบภูเขา ซึ่งน่าสนใจศึกษา เป็นอย่างยิ่ง

เจดีย์ชินสวี (Chin Swee Pagoda)
รูปปั้น 8 เซียน
ทางเดินเลียบภูเขา เล่าเรื่องนรก สวรรค์
ผนังภาพเก้ามังกร (Nine Dragons Wall)

รูปปั้นนายลิม โก๊ะห์ ตง ผู้สร้างกาสิโนเก็นติ้งไฮแลนด์ และวัดแห่งนี้
.....นายลิม โก๊ะห์ ตง ฉายา ราชาคาสิโน ของมาเลเซีย เป็นผู้พัฒนา รีสอร์ต คาสิโน เกนติ้งไฮแลนด์ เมื่อช่วงทศวรรษที่ 1960 และเป็นผู้ก่อตั้งเกนติ้ง กรุ๊ป ที่เติบโตไปเป็นกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ประกอบด้วย 3 สัญชาติ คือมาเลเซีย สิงคโปร์ และฮ่องกง ขณะที่ตัวเองรั้งอันดับที่ 204 ของมหาเศรษฐีร่ำรวยที่สุดที่จัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บส เมื่อปี 2550 จากการครอบครองทรัพย์สินมูลค่า 4,200 ล้านดอลล่าร์ หรือกว่า 1,300,000 ล้านบาท ธุรกิจของกลุ่มเกนติ้ง รวมถึงบริการเรือสำราญ สตาร์ ครูซส ที่ใหญ่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก และบริษัทลูกคือ เกนติ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล ยังเป็นเจ้าของสแตนลีย์ เลเชอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจคาสิโนใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักรด้วย
.....นายลิม เกิดเมื่อปี 2461 ที่มณฑลฟูเจี้ยนของจีน ตอนที่เขาอายุ 19 ปี เขาอพยพไปยังมาเลเซียในสภาพที่ยากจน ก่อนจะได้รับโอกาสครั้งแรกในการทำการค้าเครื่องจักรเมื่อหลังสงครามโลกครั้ง 2 ตอนที่เกิดแนวคิดจะพัฒนายอดเขาให้เป็นรีสอร์ต คาสิโน ในรัฐปะหัง เขามีอายุ 50 ปีแล้วในการพัฒนา เกนติ้ง ไฮจ์แลนด์ บนยอดเขา เขาได้สร้างถนนขึ้นไปเป็นระยะทาง 1,800 กิโลเมตร เหนือระดับน้ำทะเล และเริ่มงานเมื่อปี 2508 เขาเคยเขียนหนังสืออัตชีวประวัติตัวเองเมื่อปี 2547 ระบุถึงเรื่องนี้ว่า กลับถึงบ้านในคืนนั้น ผมบอกกับภรรยาว่า ผมลงนรกไปแล้ว แต่ภรรยาได้บอกให้เขาหันกลับไปทำงานต่อไปให้ลุล่วง ในที่สุดเขาก็สร้างถนนเสร็จ และเปิดคาสิโน ในปี 2514
.....นายลิม โก๊ะห์ ตง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2550 ด้วยวัย 90 ปี ปัจจุบันสุสานของนายลิม ตั้งอยู่เชิงเขาริมทางขึ้นเก็นติ้งไฮแลนด์
ภูมิประเทศเป็นหุบเขา ทำให้อากาศที่นี่ค่อนข้างหนาวครับ
อุณหภูมิพอๆกับบนเก็นติ้งไฮแลนด์
รูปปั้นบรรเลงดนตรีท่ามกลางหุบเขา
อาคารนี้เป็นทางขึ้นหอคอย ส่วนด้านล่างเป็นร้านอาหารเจ และที่ปฏิบัติธรรม
มุมมองจากหอคอย
จากหอคอยอีกมุม
มองลงไปทางเบื้องล่าง
ลานหน้าพระพุทธรูปแบบหินยาน
พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ดูสงบ เยือกเย็น ท่ามกลางหุบเขา
รูปปั้นพระถังซัมจั๋ง
เจ้าแม่กวนอิม
รูปปั้นชาวสวรรค์เริงระบำ
.....วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงทางลงเก็นติ้งไฮแลนด์ โดยจะมีรถบัสบริการรับส่งนำนักท่องเที่ยวจากยอดเก็นติ้งไฮแลนด์ ลงมายังที่วัดแห่งนี้ ทุกๆชั่วโมง เนื่องจากโดยปกตินักท่องเที่ยวที่ใช้บริการกระเช้าลอยฟ้าจะไม่หยุดที่วัดแห่งนี้ จึงจำเป็นต้องนั่งรถกลับลงมา
.............................................................................
.....จากนั้นเราก็เดินทางลงจากเขาเก็นติ้ง เพื่อเดินทางไปยังภูเขาอีกลูกคือ Berjaya Hill ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก (แต่เส้นทางเช่างคดเคี้ยวอย่างยิ่ง) เพื่อไปยังรีสอร์ทที่มีชื่อว่า Bukit Tinggi Resort
ทางเข้าทำเหมือนกับป้อมปราการโบราณ
Colma Tropicale สร้างเป็นหมู่บ้านดัชท์ยุคโบราณ
ทางเข้า
ด้านใน หมู่บ้านยุโรปที่เห็นนี้ทำเป็นที่พัก แบบรีสอร์ทสำหรับนักท่องเที่ยวครับ
มุมมองจากหอคอย
มองไกลๆ เป็นหุบเขา มีสนามกอล์ฟกลางหุบเขาด้วย
อันนี้เป็นบ่อน้ำครับ ก้มมองดูเหรียญจากประเทศต่างๆ ที่เค้าโยนลงไป
สะพานเป็นแบบในเทพนิยายเลย
..... สถานที่สุดท้ายในบริเวณใกล้เคียงกัน เป็นสวนพฤษศาสตร์ และหมู่บ้านญี่ปุ่น
สวนพฤษศาสตร์แห่งนี้มีพรรณไม้ต่างๆ ที่หายากมากมาย มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก
สามารถพบเห็นฝูงค่างแว่นอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ
นกเล่นน้ำตก
กิ้งกือตัวยาวเป็นฟุต พนักงานเค้าบอกว่าใหญ่กว่านี้มีอีกเยอะ
เนื่องจากภูมิอากาศคล้ายกับเขตอบอุ่น จึงมีการจัดทำสวนแบบญี่ปุ่น
บรรยากาศคล้ายกับชนบทที่เห็นในหนังญี่ปุ่น....
ปลาคร๊าฟ...
มีบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยครับ แต่คงแพงน่าดู
...... จบแล้วครับสำหรับการท่องเที่ยวหนึ่งวันในรัฐปาหัง ที่เก็นติ้งไฮแลนด์ และ เบอร์จาย่าฮิลล์ ยังมีรายละเอียดที่น่าประทับใจอีกเยอะครับที่ยังไม่ได้นำมาใส่ใน blog ไว้โอกาสอำนวยจะนำรายละเอียดเสริมลงไปอีกเรื่อยๆครับ
ขากลับเราเปลี่ยนเส้นทางกลับไป ซึ่งเป็นหุบเขาคดเคี้ยว
ตอนนี้เรากำลังแล่นผ่านอุโมงค์ตัดภูเขา
ออกจากอุโมงค์แล้ว ลาก่อนครับรัฐปาหัง โอกาสหน้าจะไปเยือนอีก
...........
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น